อุทัยธานีเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เล็กๆในเขตภาคกลาง แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนปฏิเสธไม่ได้คือความเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสวยงามหลายแห่ง บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดอุทัยธานี แต่เรารับรองว่าหากได้มาเห็นกับตาแล้ว คุณอาจจะอยากกลับไปเยือนอีกครั้งก็เป็นได้ ดังนั้นมาทำความรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวที่สุดอะเมซิ่งในอุทัยธานีกันเถอะค่ะ
จุดชมวิวบ้านชายเขา
เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดอุทัยธานี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก มีพื้นที่อยู่ในหมู่บ้านชายเขา ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก มีลักษณะเป็นสวนผลไม้ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวบนพื้นที่กว้างไกล มีสะพานไม้ยกพื้นทอดยาวไปสู่จุดชมวิวที่มีลักษณะเป็นหอคอยอยู่กลางแจ้งประดับประดาด้วยดอกไม้หลากสีสัน
เสน่ห์ที่น่าประทับใจคือฉากของภูเขาหินที่สูงเสียดฟ้าสลับซับซ้อนกันไปมาอย่างงดงามน่าหลงใหล นอกจากความงามทางธรรมชาติแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีทั้งไร่ข้าวโพด สวนผลไม้เช่น มะม่วง ทุเรียน มะยงชิด สามารถเลือกซื้อได้ตามฤดูกาล นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวยังมีความงดงามของสายหมอกที่ลอยมาทักทายนักท่องเที่ยวถึงยอดหอคอย พร้อมกับทุ่งดอกตะวันเหลืองอร่ามเต็มไร่ สวยสดงดงามอย่างนี้คะแนนความนิยมจึงพุ่งแรงแบบฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว
วัดสังกัสรัตนคีรี (วัดเขาสะแกกรัง)
มีพื้นที่อยู่ในอำเภอเมืองอุทัยธานี เป็นวัดที่มีความงดงาม และโด่งดังมากในจังหวัดอุทัยธานี เนื่องจากเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาสะแกกรัง มีบันไดสีขาวทอดขึ้นไปผ่านป่าไม้ที่เขียวขจีจำนวน 499 ขั้น หากมองในระยะไกลหรือในมุมสูงจะงดงามมาก
ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะสุโขทัยและมีการสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพญาลิไทที่มีอายุประมาณ 600 -700 ปีมาแล้ว นอกจากนี้ยังมี สิริมหามายากุฏาคาร มณฑปรูปทรงไทยงดงามตั้งตระหง่านบนยอดบันได โชว์ความงดงามอ่อนช้อยเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น ส่วนสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆได้แก่ พระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ, ระฆัง 100 ปี, วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม,ศาลารัชมังคลาภิเษก และพระพุทธบาทจำลอง
หุบป่าตาด
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับจุดชมวิวบ้านชายเขา มีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ภายในเต็มไปด้วยต้นตาดซึ่งเป็นพันธุ์ไม้โบราณหาชมยาก ส่วนการเที่ยวชมนั้นมีค่าบริการดังนี้ ชาวไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท และไฟฉาย 1 กระบอก
โดยจะมีเส้นทางชมธรรมชาติภายในถ้ำที่มืดสนิทในระยะแรก แต่ไม่นานก็จะถึงบริเวณปล่องขนาดใหญ่ที่แสงสว่างส่องถึง
จุดนี้จะมองเห็นป่าตาดและพันธุ์ไม้โบราณชนิดอื่นๆเช่น เต่าร้าง เปล้า คัดค้าวเล็ก ขนุนดิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความงามของหินงอกหินย้อยจากถ้ำให้ชมซึ่งบรรยากาศจะเย็นฉ่ำคล้ายป่าดงดิบ ที่หุบป่าตาดหากใครสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีจะมีโอกาสเห็น กิ้งกือตัวน้อยสีชมพูซึ่งพบเห็นได้ที่หุบป่าตาดที่เดียวในโลกแต่จะมีในช่วงเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน เท่านั้น
ซื้อตั๋วเดินทางราคาถูก “ทั่วโลก” ได้ที่นี่ (เลือกพาหนะเดินทางได้ทุกประเภท)
พิมพ์ต้นทาง – ปลายทาง โดยสามารถพิมพ์เป็นภาษาไทยได้
