8 ข้อควรรู้หุ้น”เบทาโกร”ก่อนลงทุน ราคาไอพีโอแพงไหม?

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

หุ้นเบทาโกร (BTG) หุ้นไอพีโอน้องใหม่ มีมูลค่าระดมมากถึง 2 หมื่นล้านบาท สูงสุดในกลุ่ม ‘เกษตร-อาหาร’ มาทำความรู้จัก 8 ข้อ ก่อนตัดสินใจลงทุน ราคาไอพีโอที่ 40 บาท แพงไปไหม เงื่อนไขใครมีสิทธิ เปิดจองซื้อแล้ววันนี้ 10 – 17 ต.ค. 65

เบทาโกร (BTG) เตรียมระดมทุนเสนอขายไอพีโอด้วยมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นไอพีโอที่มีมูลค่าใหญ่สุดใน”กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร” และยังมีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)ในปีนี้ โดยเปิดจองซื้อเริ่มตั้งแต่วันนี้ 10 – 17 ต.ค.65 ที่ราคาหุ้นละ 40.00 บาท

 

อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน “หุ้นเบทาโกร ” ฐานเศรษฐกิจ ได้รวบรวม 8 ข้อควรรู้ เพื่อให้นักลงทุนพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน รายละเอียดดังนี้

1.เบทาโกร ดำเนินธุรกิจด้วยประสบการณ์นาน 55 ปี เป็นบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล ประกอบธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ ขยายไปสู่การทำฟาร์มเชิงพาณิชย์ การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และปลา ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน รวมไปถึงอาหารสัตว์เลี้ยง

 

จัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและส่งออกไปกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ตลาดส่งออกหลัก อาทิ สหราชอาณาจักร, สหภาพยุโรป (อียู) , ประเทศญี่ปุ่น , ประเทศสิงคโปร์ , ฮ่องกง และประเทศจีน

 

2.แบรนด์ภายใต้”เบทาโกร” ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป และไส้กรอก ได้แก่ แบรนด์ S Pure, แบรนด์ Betagro และ แบรนด์ ITOHAM และแบรนด์อาหารสัตว์ ได้แก่ แบรนด์ Perfecta, แบรนด์ DOG n joy และแบรนด์ CAT n joy ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายของเบทาโกร และเครือข่ายพันธมิตรกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ

 

3.การเติบโตของรายได้ ช่วง 3 ปี โตเฉลี่ย 7.3% และ 6 เดือนแรกของปี 65 “เบทาโกร”มีรายได้รวม 54,193.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.1%จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และสามารถสร้างกำไรสุทธิ 3,892.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.2% โดยกำไรสุทธิเติบโตถึง 233.% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

4. กลุ่มธุรกิจหลัก “เบทาโกร”

 

1.กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน คิดเป็นสัดส่วน 68%รายได้
2. กลุ่มธุรกิจเกษตร สัดส่วน 25%
3. กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ 5%
4. กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง 2%

5.วัตถุประสงค์ระดมทุน 20,000 ล้านบาท บริษัทวางแผนใช้เงินดังนี้

 

1.การเข้าซื้อ และ/หรือก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ประมาณ 8,000 ล้านบาท
2.ชำระหนี้สินระยะสั้นและ/หรือระยะยาวแก่สถาบันการเงิน 8,960 – 10,500 ล้านบาท
3.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ไม่เกิน 1,021 ล้านบาท

6. การจัดสรรหุ้นไอพีโอที่เสนอขาย

 

“เบทาโกร” BTG กำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอที่หุ้นละ 40 บาท จำนวนไม่เกิน 500 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ประกอบด้วย

 

หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 434,800,000 หุ้น หรือไม่เกิน 21.7% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด หลัง IPO บนสมมติฐานว่ามีการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน
อาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Overallotment Option) จำนวนไม่เกิน 65,200,000 หุ้น คิดเป็น 15.0% ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายตั้งต้นในช่วง 30 วันแรกหลังจากที่หุ้น BTG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน

โดยการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ มีนักลงทุนสถาบัน (ในและต่างประเทศ)ลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้น BTG เพื่อเป็น Cornerstone Investors ทั้งหมด 25 ราย คิดเป็นมูลค่า7,286 ล้านบาท หรือ 77.1% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันทั่วโลก (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)

 

7.ราคาไอพีโอ หุ้น”เบทาโกร”แพงไปไหม ?

 

ราคาเคาะขายที่ 40 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E Ratio เท่ากับ 21.2 เท่า (หากมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน จะคิดเป็น P/E ประมาณ 21.9 เท่า ) และเมื่อเทียบกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 3 บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ได้แก่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) อยู่ที่ 25 เท่า, บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป(TFG) อยู่ที่ 32.8 เท่า และ บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) อยู่ที่ 27.3 เท่า

 

8.จองซื้อหุ้น”เบทาโกร”ได้ที่ไหน ใครบ้างมีสิทธิ

เปิดให้จองซื้อตั้งแต่วันที่ 10 – 12 และ 17ต.ค.65 โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นลูกค้าของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ดังนี้

 

1.บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
2.บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
3.บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
4.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
5.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด
6.บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
7.บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
8.บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

ทั้งนี้คาดว่าหุ้นเบทาโกร (BTG) จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 2 พ.ย. 2565

 

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และหนังสือชี้ชวนของ BTG ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. (https://www.sec.or.th) และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.betagro-investor.com หรือ Email: ir@betagro.com


ค้นหาที่พักราคาถูก “ทั่วโลก” ได้ที่นี่ : สามารถพิมพ์ปลายทาง เป็นภาษาไทยได้




ซื้อตั๋วเดินทางราคาถูก “ทั่วโลก” ได้ที่นี่ (เลือกพาหนะเดินทางได้ทุกประเภท)
พิมพ์ต้นทาง – ปลายทาง โดยสามารถพิมพ์เป็นภาษาไทยได้

Powered by 12Go system
Booking.com