เครดิตภาพ: Pasakorn Hansetagan / Shutterstock.com
ถ้าใครมีโอกาสได้ขึ้นมาเชียงราย ส่วนมากก็จะแวะชมความงามของวัดร่องขุ่นที่มีความโด่งดังระดับโลก ก็ไม่แปลกหรอกค่ะเพราะใครก็อยากชื่นชมของสวยๆงามๆกันทั้งนั้น แต่เราอยากแนะนำว่านอกจากวัดร่องขุ่นแล้วยังมีอีกวัดหนึ่งที่สวยงามน่าดูชมเช่นเดียวกัน อีกทั้งเส้นทางก็ไม่ห่างไกลจากวัดร่องขุ่นเท่าไรนัก วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเรียงนามว่า “วัดร่องเสือเต้น” ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะ จะงดงามขนาดไหน ตามไปดู ไปดูค่ะ
มีตำนานเล่าขานกันมาว่า เมื่อ 100 ปีก่อน วัดร่องเสือเต้นแห่งนี้เคยเป็นวัดร้าง พื้นที่แห่งนี้ยังไม่มีบ้านเรือนผู้คนมากนัก จึงเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมากโดยเฉพาะเสือ ชาวบ้านที่ผ่านมามักจะเห็นเสือกระโดดข้ามไปมาบริเวณร่องน้ำ จึงเรียกบริเวณนี้ว่าร่องเสือเต้นต่อๆกันมา ภายหลังมีบ้านเรือนชาวบ้านเพิ่มขึ้นจึงเรียกกันว่าบ้านร่องเสือเต้น เนื่องจากยังไม่มีวัดในหมู่บ้านชาวบ้านจึงพร้อมใจกันบูรณะวัดร้างแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อทำบุญและประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา
วัดร่องเสือเต้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่บางคนรู้จักและเรียกกันว่า วัดสีน้ำเงิน หรือ blue temple สำหรับชาวต่างชาติ เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรม ตั้งอยู่ในพื้นที่ ชุมชนร่องเสือเต้น ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์มาจากฝีมือของนาย พุทธา กาบแก้ว หรือสล่านก ศิลปินท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย
สล่านกเคยเป็นนกลูกศิษย์ของ อาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้ออกแบบและสร้างสรรค์วัดร่องขุ่นจังหวัดเชียงราย ที่โด่งดังในเรื่องความงามของศาสนสถานมาแล้วทั่วโลก ความโดดเด่นของวัดร่องเสือเต้นคือพระวิหารสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทองอร่าม สร้างความสะดุดตาแก่ผู้พบเห็น หน้าบันและเสาร์พระวิหารเน้นโทนสีทอง ตัดกับสีน้ำเงินของตัวพญานาคที่ทอดตัวดิ่งลงมาตามแนวขั้นบันได สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือเขี้ยวขาวที่โค้งงอในปากพญานาคดูแปลกตาไม่เหมือนที่อื่น สิ่งนี้สล่านกได้จากแรงศรัทธาในผลงานของ อาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี ผู้ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์บ้านดำ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งในจังหวัดเชียงราย
ภายในวิหารวัดร่องเสือเต้นมีความงดงามที่ประกอบไปด้วยพระพุทธรูปของ พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาศ สีขาวมุกขนาดใหญ่เป็นองค์ประธาน และจิตรกรรมฝาผนังที่เกี่ยวกับพุทธประวัติที่งดงามอ่อนช้อย
ส่วนด้านหลังวิหารมีพระพุทธรูปพระปรางค์ห้ามญาติองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่
หากเดินชมรอบวัดจะเห็น พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าองค์ตั้งเด่นอยู่ทางด้านหลังพระวิหาร มีความสูง 20 เมตรฉาบทาด้วยสีน้ำเงินฟ้าตัดทองตามเอกลักษณ์ของวัด เป็นสิ่งที่งดงามเคียงคู่กับพระวิหาร นอกจากนี้รอบๆวัดยังมีพระพุทธรูปองค์ขาวประดิษฐานบนบัลลังค์ดอกบัวพรั่งพร้อมด้วยบริเวณ รวมไปถึงปติมากรรมอื่นๆ รอบวัด
ซื้อตั๋วเดินทางราคาถูก “ทั่วโลก” ได้ที่นี่ (เลือกพาหนะเดินทางได้ทุกประเภท)
พิมพ์ต้นทาง – ปลายทาง โดยสามารถพิมพ์เป็นภาษาไทยได้
