แท็บเล็ต HUAWEI MatePad Pro ที่พึ่งเปิดตัวออกมาได้ไม่ผ่าน เป็นแท็บเล็ตซีรีส์ล่าสุดของ Huawei ที่ขับเคลื่อนโดย Kirin 990 SoC ปัจจุบันมี 2 รุ่นให้เลือกซื้อ ได้แก่ MatePad Pro 10.8 นิ้ว และ MatePad Pro 12.6 นิ้ว ซึ่งทั้งสองไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แตกต่างเพียงแค่ขนาดของหน้าจอเท่านั้น นอกจากนี้ยังรองรับ smart keyboard ที่เป็นแบบแม่เหล็ก และ M-Pencil อีกด้วย ทำให้สามารถใช้งานแท็บเล็ตได้แบบครบวงจรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ การวาดรูป การทำงาน หรืองานครีเอทีฟต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
M-Pencil และ Smart Keyboard อันทรงพลังกับ MatePad Pro
อุปกรณ์เสริมทั้งสองนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำให้ MatePad Pro เป็นอุปกรณ์ที่สามารถทดแทนแล็ปท็อปได้ ความห่างของปุ่มคีย์บอร์ดแต่ละตัวนั้นอยู่ที่ 1.3 มม. นอกจาก smart keyboard แล้ว แท็บเล็ต MatePad Pro ยังสามารถปรับเอียงได้ 2 ระดับ โดยที่เราสามารถวางบนโต๊ะ หรือบนตักของเราได้ตามต้องการ โหมด PC จะเปิดใช้งานทุกครั้งที่มีการแนบ Smart Keyboard และตอนนี้ไอคอนก็จะปรากฏขึ้นอยู่บนหน้าจอ ซึ่งเปรียบเสมือนการจำลองสภาพแวดล้อมการใช้งานบนเดสก์ท็อป
M-Pencil เป็นปากกาสไตลัสที่มีการตอบสนองสูง ซึ่งรองรับระดับความไวต่อแรงกด 4,096 ระดับ เวลาแฝงของปากกาสไตลัสอยู่ที่ 20 มิลลิวินาที ดังนั้นการวาดรูปในแท็บเล็ตจึงไม่มีการดีเลย์มากนัก เมื่อใช้ปากกาสไตลัสนี้ หน้าจอจะมีการปฏิเสธการสัมผัสด้วยนิ้วมือ เพื่อให้โฟกัสไปที่การใช้ปากกาเพื่อวาดรูปหรือขีดเขียนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสะดวกในเรื่องของการจดบันทึกด้วยปากกาด้วย แอปพลิเคชันจดบันทึกจะเปิดขึ้นเมื่อแตะด้วยปากกาสไตลัสเบา ๆ ในขณะที่ MatePad Pro อยู่ในสถานะล็อกหน้าจอ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเขียนโน้ตแบบเร่งด่วนโดยไม่ต้องมีการเปิดหน้าจอ
นอกจากนี้ Huawei MatePad Pro ยังร่วมมือกับ Nebo เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน MyScript มอบประสบการณ์การจดบันทึกที่มากกว่าปกติ เนื่องจากเราสามารถวาดเส้นเพื่อแยกข้อความ ขัดเพื่อลบข้อความ และอีกมากมาย ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานขั้นสูง M-Pencil มาพร้อมกับการชาร์จแบบไร้สายและสามารถชาร์จที่ด้านข้างของตัวเครื่องแท็บเล็ตได้ ปากกาสามารถอยู่ได้นานถึง 10 นาทีเมื่อชาร์จเป็นเวลา 30 วินาที และเมื่อแบตเตอรีของปากกาเต็ม ก็สามารถสแตนด์บายได้ 10 วัน และเขียนได้ 10 ชั่วโมง
คุณสมบัติอีกอย่างของ Huawei MatePad Pro คือ การรองรับการซิงโครไนซ์หลายหน้าจอ คุณสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Huawei ของคุณร่วมกับ MatePad Pro และซิงค์ทั้งสองหน้าจอเข้าด้วยกันได้ และยังมีแอปพลิเคชันสำหรับแบ่งหน้าจอสำหรับทั้งสองอุปกรณ์ด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถปรับขนาดหน้าต่างของหน้าจอได้ตามที่ต้องการ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ทำงานที่ต้องทำหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน สามารถเปิดใช้งานได้โดยการตั้งค่า ไปที่ Settings > Apps > App Multiplier
ฟีเจอร์การทำงานของ Huawei MatePad Pro
Huawei ยังเพิ่ม MeeTime ใน EMUI 10.1 ซึ่งมีอยู่ใน Huawei P40 series และ MatePad Pro ฟีเจอร์ MeeTime นี้เป็นคุณสมบัติแฮงเอาท์วิดีโอ ที่นำเสนอวิดีโอที่มีความละเอียดสูง และสามารถใช้เพื่อแชร์หน้าจอของคุณได้เช่นกัน ฟีเจอร์ MeeTime สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นแม้คุณภาพสัญญาณมือถือของคุณลดลง และสามารถปรับเพิ่มความสว่างผ่านระบบ AI อัตโนมัติ เมื่อจับภาพในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย ทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ในการประชุมออนไลน์ในที่ทำงาน หรือติดต่อพูดคุยกับเพื่อนผ่าน MeeTime ได้เช่นกัน ในส่วนของกล้องนั้นก็ให้คุณภาพในระดับที่น่าพึงพอใจ ไม่ได้ดีมากเหมือนกับกล้องโทรศัพท์ แต่ในระดับแท็บเล็ตทั่ว ๆ ไปที่ไม่ค่อยมีการโฟกัสในเรื่องกล้อง MatePad ถือว่าอยู่ในระดับคุณภาพมาก
แท็บเล็ต Huawei MatePad Pro มาพร้อมกับระบบ HMS + AppGallery ซึ่งรองรับแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน แม้ว่าจะไม่มีบริการจาก Google แต่ก็มีแอปพลิเคชันหลาย ๆ อย่างที่มีในร้านค้าออนไลน์ของ Huawei ส่วนแอปพลิเคชันที่ไม่มีใน AppGallery เราก็สามารถใช้เครื่องมือค้นหาอย่าง Petal Search เพื่อค้นหาแอปพลิเคชัน และดาวน์โหลดติดตั้งในรูปแบบของไฟล์ apk ได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instragram, WhatsApp, WeChat, Netflix, TikTok และอีกมากมายก็สามารถเล่นได้ในแท็บเล็ตเครื่องนี้
สำหรับหน้าจอแสดงผลของแท็บเล็ตนั้นใช้จอแสดงผล QHD สำหรับรุ่น 10.8 นิ้ว และแผงหน้าจอ OLED ในรุ่น 12.6 นิ้ว นอกจากระบบ Kirin 990 และระบบเสียงที่ปรับแต่งโดย Harman Kardon แล้ว Huawei MatePad Pro ยังเป็นอุปกรณ์แท็บเล็ตทีมอบความบันเทิงในแบบที่คุณต้องการได้ง่าย ๆ รับชมสตริมมิง ดูภาพยนตร์ หรือวิดีโอต่าง ๆ ได้อย่างคมชัด คุณภาพเสียงที่เกินบรรยาย ประสิทธิภาพในการเล่นเกมก็เล่นได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัดอะไร แถมยังใช้ทำงานต่าง ๆ ได้อีกด้วย เป็นแท็บเล็ตที่ครบวงจรอีกเครื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้
แท็บเล็ต Huawei MatePro นั้นจะไม่สมบูรณ์แบบหากขาดอุปกรณ์เสริมอย่าง M-Pencil และ smart keyboard สำหรับใครที่ทำงานสายครีเอทีฟ ปากกาก็เป็นอุปกรณ์เสริมที่ขาดไม่ได้ ส่วนคีย์บอร์ดนั้นสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเป็นเคสแท็บเล็ต เป็นขาตั้ง และเป็นแป้นพิมพ์ได้ การพิมพ์งานและบันทึกต่าง ๆ ของเราจะง่ายขึ้นมากถ้ามีอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ นอกจากคุณสมบัติและสเปกเครื่องระดับพรีเมียมของแท็บเล็ตนี้แล้ว อุปกรณ์เสริมก็เป็นเหมือนตัวเสริมระดับอุปกรณ์ให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น อย่าลืมว่าอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้มาพร้อมกับตัวเครื่องแท็บเล็ต แต่เราสามารถซื้อแยกได้
ซื้อตั๋วเดินทางราคาถูก “ทั่วโลก” ได้ที่นี่ (เลือกพาหนะเดินทางได้ทุกประเภท)
พิมพ์ต้นทาง – ปลายทาง โดยสามารถพิมพ์เป็นภาษาไทยได้