ศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญและเป็นแหล่งรวมใจประชาชนลาวและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเข้าไว้ด้วยกันนั้น ก็คือปูชนียสถานอันศักด์สิทธิ์หลายร้อยปี อย่าง พระธาตุหลวง ที่อยู่คู่กับแผ่นดินลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้มาช้านาน
พระเจดีย์โลกะจุฬามณี หรือที่ชาวลาวเรียกว่า พระธาตุหลวง (Pha That Luang) ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดย พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราคฤห์ ประเทศอินเดีย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2109 หลังจาก พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช วีรกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรล้านช้าง หลังจากที่ได้ทรงย้ายราชธานีเมืองเชียงทองหลวงพระบาง ลงมายังนครเวียงจันทน์แล้ว พระองค์จึงได้มีพระบรมราชโองการให้สร้างองค์พระธาตุหลวงขึ้นมาใหม่ ครอบพระธาตุองค์เก่า
พระธาตุหลวงสร้างด้วยศิลปะจุลศิลป์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบลาวโบราณ (เช่นเดียวกับพระธาตุพนม ที่จังหวัดนครพนม) มีรูปลักษณะคล้ายดอกบัวตูม มีพระธาตุเล็กอยู่บนพระธาตุใหญ่ชั้นที่สอง 30 องค์ ชั้นบนขึ้นไป มีธาตุเล็กองค์หนึ่งที่มีลวดลายสวยงาม และได้สร้างหอครอบไว้อีกชั้น ธาตุเล็กนี้เรียกว่า “พระธาตุศรีธรรมทายโลก”
สำหรับประชาชนชาวลาว จะมีพิธีนมัสการประจำปี ที่จัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 โดยการแห่ปราสาทผึ้งและต้นกัลปพฤกษ์มาทอดถวาย พร้อมทั้งมีงานสมโภชมหรสพอย่างครื้นเครง 3 วัน 3 คืน
การเดินทางพระธาตุหลวงนั้น สามารถนั่งรถเมล์สายสีแดงมาลงที่ด้านประตูพระธาตุหลวงใต้แล้วเดินต่อไปถึงวัดพระธาตุหลวง (วัดพระธาตุหลวงเหนือ-ใต้เป็นส่วนหนึ่งของวัดพระธาตุหลวงที่ใช้เป็นที่พักของพระภิกษุและเณร) หรือใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กจากตลาดเช้ามาที่พระธาตุหลวงก็สะดวกเช่นกัน
วัดพระธาตุหลวง เปิดให้เข้าชมและสักการะทุกวัน เวลา 08.00 น. – 12.00 น. และ 13.00 น. – 17.00 น. โดยต้องซื้อบัตรค่าเข้าราคา 5,000 กีบ หรือประมาณ 20 บาท
ซื้อตั๋วเดินทางราคาถูก “ทั่วโลก” ได้ที่นี่ (เลือกพาหนะเดินทางได้ทุกประเภท)
พิมพ์ต้นทาง – ปลายทาง โดยสามารถพิมพ์เป็นภาษาไทยได้