อุทยานแห่งชาติ ตะรุเตาอยู่ในทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบ มะละกา เป็นพื้นที่ครอบครองของอำเภอเมือง จังหวัดสตูล ทางทิศใต้ของอุทยานห่างจากชายแดนไทย – มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตร ในอดีตเมื่อปี พ.ศ. 2481 เกาะตะรุเตาเคยเป็นทัณฑสถานและเป็นนิคมฝึกอาชีพนักโทษ ต่อมาในปี พ.ศ.2488 ถูกตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่หลังสงครามเอเชียบูรพา ทำให้เกาะตะรุเตาประสบปัญหาขาดแคลน อาหาร ยา และเครื่องใช้ต่างๆ ทำให้มีโจรสลัดคอยปล้นเรือสินค้าไทยและต่างชาติที่แล่นผ่านบริเวณนั้น ทางรัฐบาลไทยและทหารอังกฤษจึงได้ร่วมมือกันปราบปรามโจรสลัดจนสำเร็จในปี พ.ศ. 2489 และได้ยกเลิกเป็นนิคมฝึกอาชีพนักโทษในเวลาสองปีต่อมา
ปัจจุบันประเทศชาติรุ่งเรือง บวกกับความอุดมสมบูรณ์ของเกาะตะรุเตา เกาะแห่งนี้จึงกลายเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2517 นับเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 8 ของประเทศไทย ส่วนแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่โด่งดังในเรื่องของความงามได้แก่
อ่าวพันเตมะละกา
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีกิจกรรมครบครับสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ขึ้นไปชมทิวทัศน์ที่ผาโต๊ะบู พายเรือแคนูชมป่าชายเลน ด้านท้องทะเลก็งดงามด้วยพื้นที่บนชายหาดที่ยาว 1.5 กิโลเมตร และหาดทรายสีขาวประดับด้วยต้นหูกวาง ร่มรื่นด้วยเงาสน และเตยทะเล สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย ที่อ่าวพันเตเป็นโซนบริการนักท่องเที่ยวที่มีบ้านพักหลายรูปแบบ มีลานกางเต้นท์ ร้านขายของ และจุดบริการนักท่องเที่ยว จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั่วทุกสารทิศ
เกาะหินงาม
เป็นเกาะเล็กๆที่มีเอกลักษณ์คือ หิน เป็นหินสีดำก้อนกลมๆ ที่ถูกคลื่นทะเลพัดพามากองและทับถมกันจนกลายเป็นเนินหินเล็กๆริมหาด หินทุกก้อนมีลวดลายไม่เหมือนกันและจะมันวาว เมื่อถูกคลื่นซัดเข้าหา เกาะหินงามเมื่อมองในระยะไกลจะเห็นเป็นหาดสีดำ และจะฉายภาพงดงามขึ้นด้วยต้นไม้เล็กๆหลายต้นบนหาดเมื่อมาถึง ซึ่งความมหัศจรรย์นี้มีอยู่แห่งเดียวในประเทศไทย
เกาะหินซ้อน
เป็นบริวารของหมู่เกาะดง เป็นเพียงโขดหินกลางทะเลที่ไม่มีชายหาดใดๆ แต่มีสัญลักษณ์ที่แปลกประหลาดคือหินขนาดใหญ่ 2 ก้อนวางเทินกันอยู่ ในขณะที่หินก้อนล่างแตกร้าวแต่หินก้อนบนยังคงสภาพเดิมเป็นความแปลกแต่จริงของธรรมชาติที่นี่ นอกจากความประหลาดบนผิวน้ำแล้วใต้ท้องทะเลยังมีความงามของปะการังเจ็ดสีเกาะอยู่ตามโขดหินใต้ทะเลเคียงคู่กับหอยเม่น ราวกับเป็นการจัดฉากรอนักท่องเที่ยวที่ดำน้ำมาดูชม
